ช่วงนี้เห็นแต่คลิปคนดังในวงการต่างๆ เทน้ำแข็งใส่ตัวเอง หลังจากรับคำท้า ใน hash tag #icebucketchallengeth เยอะมากๆ จนเป็น viral internet meme กันไปแล้ว ทำไมคนดังหลายๆท่านถึงกล้าทำกิจกรรมสุดท้าทายแบบนี้ และที่มาที่ไปของ Ice Bucket Challenge คืออะไร?
Ice Bucket Challenge กับกิจกรรมเทน้ำที่ใส่น้ำแข็งเยอะๆใส่ตัวเองนี้ เริ่มจากคนดังในต่างประเทศ อย่างเช่น Mark Zuckerburg, Bill Gate , Tim Cook , larry page และคนดังอีกหลายคนในวงการไอที ซึ่งมีผู้ติดตามผ่านทาง facebook twitter และ social network อื่นๆจำนวนมาก รับคำท้าจากคลิปเพื่อนที่ทำกิจกรรมเทน้ำแข็งใส่ตัวเอง ซึ่งกิจกรรมของแคมเปญ Ice Bucket Challenge ในต่างประเทศนั้น เพื่อสนับสนุนการระดมทุนเพื่อต่อสู้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) พร้อมกับให้คุณท้าคนอื่นอีก 3 คน ”เทน้ำแข็งใส่ตัวเอง” ซึ่งทั้ง 3 คนนี้ที่ถูกท้า จะต้องตอบรับคำท้าโดยโพสต์คลิปเทน้ำแข็งใส่ตัวเอง ภายใน 24 ชั่วโมงด้วย ซึ่งคลิปกิจกรรมดังกล่าวนี้ทำให้คนที่คลิกชมคลิปวีดีโอ ได้ตื่นตัวเกี่ยวกับการช่วยเหลือสังคมโดยการบริจาคเงิน ช่วยบริจาคระดมทุนต่อสู้โรค ALS พร้อมกับรับคำท้า เทน้ำแข็งใส่ตัวเอง โพสต์คลิปขึ้น youtube แล้วแชร์ต่อเพื่อนๆทาง Social Network
จากคลิปในต่างประเทศที่คนสนใจคลิกจำนวนมาก ในประเทศไทยก็เริ่มกิจกรรมIce Bucket Challenge Thailand ผ่านทาง hash tag #icebucketchallengeth เช่นกัน ริเริ่มโดยคุณมาร์ค จาก Blognone ที่เริ่มแคมเปญนี้ ซึ่งตอนนี้คนดังในวงการต่างๆ ตั้งแต่วงการไอที ผู้บริหารด้านโทรคมนาคม สื่อมวลชน นักการเมือง ตลอดจนดารานักร้อง นักแสดง ผู้ประกาศข่าว พิธีกรชื่อดัง รวมถึงคนดังบนโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามบน facebook , twitter , google+ จำนวนมากๆ ต่างรับคำท้า เทน้ำแข็งสุดเย็นเจี๊ยบใส่ตัวเอง แล้วแชร์คลิปการเทน้ำแข็งสู่ Social Network มากมาย และทำให้คนทั่วไปสนใจคลิกชมกิจกรรมนี้เป็นจำนวนมาก แต่จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยคือ จากต้นแบบที่จะบริจาคให้องค์กรที่ต่อสู้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) ซึ่งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เปลี่ยนมาเป็นการบริจาคให้หน่วยงานใดก็ได้ ที่เกี่ยวกับการกุศลหรือประโยชน์สาธารณะในประเทศไทย แทน
กิจกรรม Ice Bucket Challenge Thailand ถึงแม้จะเป็น internet meme ก็จริง แต่การทำกิจกรรมนี้ต้องใช้ใจล้วนๆ ที่จะรับคำท้า รับน้ำแข็งและน้ำเย็นสุดเย็นเจี๊ยบใส่ตัว รับความอดทนที่อาจต้องเจ็บหนาว และยินดีที่จะบริจาคเงินให้ความช่วยเหลือกับองค์กรสาธารณะ การกุศล เพื่อให้คุณภาพชีวิตของผู้ที่เดือดร้อนจากเรื่องต่างๆนั้นดีขึ้นกว่าเดิม นับว่าเป็น MeMe ที่ทำให้คนทั่วไปได้ตื่นตัวและช่วยเหลือสังคมด้วย