เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาประเทศไทย เกิดเหตุแผ่นดินไหวทั่วประเทศญี่ปุ่น 8.9 ริกเตอร์ แล้วเกิดคลื่นสึนามิ สูงกว่า 10 เมตร นับว่าเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นครั้งใหญ่สุดในรอบกว่า 100ปี จากการรายงานของอัลจาซีรา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตนับ60กว่าคน และมีอาฟเตอร์ช็อคตามมา อีก10กว่าครั้ง ทั้งนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ติดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิ รอบเกาะญี่ปุ่นและมีการซักซ้อมรับมือบ้างแล้ว
จากเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ ทำให้ช่องทางการสื่อสารผ่านทาง twitter เต็มไปด้วยข้อความรายงานสถานการณ์และขอความช่วยเหลือในเหตุแผ่นดินไหวเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นได้ทวิตรายงานสถาพบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย และขอความช่วยเหลือด่วน ในขณะที่ทั่วโลกได้รับรู้พร้อมๆกันผ่านสื่อทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกได้ประกาศ เตือนภัย 5 ประเทศ ฮาวาย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เม็กซิโก อเมริกาเหนือกลาง อาจเกิดสึนามิ ซึ่งมีการ rt เป็นจำนวนมากเพื่อเตรียมการรับมือจากคลื่นสึนามิในเวลาต่อมา และ Trend Twitter ที่ติดอันดับต้นๆ เต็มไปด้วยแท็กที่เกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ ในญี่ปุ่น โดยเฉพาะ แท็ก #prayforjapan อยู่ในอันดับ 1 ของ Trend Topic ในช่วงนี้
ในเว็บไซต์ youtube ก็มีโพสคลิปเหตุการณ์แผ่นดินไหวด้วย ทำให้เห็นสภาพเมืองญี่ปุ่นที่อยู่ในอันตราย ณ เวลานี้และมีการร่วมมือกับสถานีข่าว อัลจาซีรา ภาคภาษาอังกฤษ รายงานเหตุแผ่นดินไหวแบบ stream สดผ่าน youtube ด้วย
เว็บไซต์ Google ก็ได้เปิดเว็บไซต์พิเศษเพื่อรับแจ้งหาผู้สูญหายในเหตุแผ่นดิืนไหว-สึนามิแล้ว ที่ http://japan.person-finder.appspot.com/?lang=ja
พื้นที่ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิในประเทศญี่ปุ่น
รวบรวมจากเว็บไซต์ http://www.jma.go.jp/en/tsunami/
สำหรับประเทศไทยแม้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น แต่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติก็เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ http://www.ndwc.go.th/home/
นอกจากนี้ยังมี สถานฑูตไทย ณ กรุงโตเกียวได้เปิดช่องทางแจ้งข่าวสถานการณ์แผ่นดินไหว และการติดต่อสถานฑูตโดยตรงผ่านทาง twitter ที่ @rtetokyo และทาง windows live messenger ที่ [email protected] ด้วย
นับว่าสังคมออนไลน์มีส่วนอย่างมากที่จะช่วยในการรายงานสถานการณ์อย่้่างรวดเร็ว และคอยเยียวยาช่วยเหลือบรรเทาประเทศที่ประสบภัยจากภัยธรรมชาติที่คาดไม่ถึง แต่สิ่งที่จะช่วยเหลือและลดบรรเทาความเสียหายได้คือความพร้อมในด้านเทคโนโลยีการเตือนภัยที่จะช่วยชีวิตผู้คนให้รอดจากภัยธรรมชาติอย่างเช่นวันนี้